วันศุกร์ที่ 6 สิงหาคม พ.ศ. 2553

ประวัติการแพทย์แผนไทย

ความเบื้องต้น
             การแพทย์แผนไทยมีประวัติความเป็นมาอันยาวนานพร้อมๆกับการกำเนิดมนุษย์ชาติ ผู้คนทุกชาติทุกภาษาต่างก็มีวิชาการแพทย์ของตนเอง แตกต่างกันไปตามแนวปรัชญาการแพทย์พื้นฐานของแต่ละกลุ่มชน แต่ส่วนมากที่เหมือนกันสามารถนำมาใช้ร่วมกันได้คือ การนำเอาสิ่งที่มีอยู่หรือเกิดขึ้นในธรรมชาติมาใช้ ตามหลักพุทธศาสนา สรรพสิ่งทั้งหลายย่อมประกอบด้วย อนู และ ปรมาณู เมื่อประกอบกันขึ้นเป็นกลุ่มเป็นก้อนแล้วจึงแบ่งออกตามรูปลักษณะเป็น ๔ กลุ่ม เรียกว่า กองธาตุมี ๔ กอง ลักษณะแข็ง เรียกว่า ธาตุดิน ลักษณะไหลเกาะกุมและเย็น เรียกว่า ธาตุน้ำ ลักษณะเคลื่อนไหวไปมา เรียดว่า ธาตุลม ลักษณะให้เกิดความร้อน เรียกว่าธาตุไฟ
              ทุกสิ่งย่อมมีพลังควบคุมอยู่ในตัวเอง พลังงานในคนและสัตร์ เรียกว่า จิต พลังงานในวัตถุ เรียกว่า ภูตะ จะเห็นว่าในธรรมชาติ ไม่ว่าจะมีชีวิตหรือไม่ ย่อมมีพลังงานอยู่ในตัวเองทั้งสิ้น เมื่อพิจารณาในด้านการรักษาดรคหรือแก้ไขความผิดปกติที่เกิดขึ้นในร่างกายของมนุษย์หรือสัตว์ ก็คือ การแก้ไขการเสียสมดุลย์ของธาตุทั้ง ๔ อันประกอบขึ้นเป็นร่างกายพลังงานที่มีอยู่ในสรรพสิ่งนธรรมชาติ เรียกตามวัตถุกระสงค์ทางการแพทย์ว่า สรรพคุณเราสามารถนำสรรพคุณในการรักษาของสรรพสิ่งที่มีอยู่แตกต่างกันไปมาใช้เกิดประโยขน์แก่มนุษย์ได้

กิจของหมอ


หมอยา คือ ผู้ที่ชำนาญในการรักษาโรคภัยไข้เจ็บ ผู้ที่เข้าใจในวิธีนวดก็เรียกว่า หมอนวด
หมอ มาจากคำว่า เวชะ คนมีความรู้ แผลงมาเป็น แพทย์ แปลออกเป็นคำไทยว่า หมอ

            หมอที่จะเป็นผู้รู้ชำนาญในการรักษาโรคได้นัน จะต้องรู้กิจ ๔ ประการ ในเบื้องต้นเสียก่อน แบ่งออกเป็นหมวดดังนี้ คือ
                  
                        กิจ ๔ ประการ
             หมวดที่ ๑ รู้ที่ตั้งที่แรกเกิดของโรค
             หมวดที่ ๒ รู้จักชื่อโรค
             หมวดที่ ๓ รู้จักยารักษาแก้โรค
            หมวดที่ ๔ รู้ว่ายาอย่างใดควรจะแก้โรคชนิดใด

            หมวดที่ ๑ ที่ตั้งแรกเกิดของโรค

ที่ตั้งที่แรกเกิดของโรคนั้น ได้แก่ สมุฏฐาน ๔ ประการ คือ
             ๑. ธาตุสมฏฐาน
             ๒. อุตุสมุฏฐาน
             ๓. อายุสมุฏฐาน
            ๔. กาลสมุฏฐาน

สมุฏฐาน แปลว่า ที่ตั้งที่เกิดโรคภัยไข้เจ็บจะบังเกิดขึ้น ก็เพราะสมุฏฐานเป็นที่ตั้ง
ธาตุสมุฏฐาน แปลว่า ที่ตั้งของธาตุ แบ่งธาตุออกเป็น ๔ กอง คือ

     ๑. ปัถวีสมุฏฐาน ดินเป็นที่ตั้ง แจกออก ๒๐ อย่าง

    ๒. อาโปสมุฏฐาน น้ำเป็นที่ตั้ง แจกออก ๑๒ อย่าง

    ๓. วาโยสมุฏฐาน ลมเป็นที่ตั้ง แจกออก ๖ อย่าง

   ๔. เตโชสมุฏฐาน ไฟเป็นที่ตั้ง แจกออก ๔ อย่าง

จึงรวมเป็นธาตุสมุฏฐาน ๔๒ อย่าง หรือจะเรียกธาตุสมุฏฐานทั้ง ๔ ว่า ธาตุดิน ธาตุน้ำ ธาตุลม ธาตุไฟ ก็ได้

              ปัถวีธาตุ ๒๐ คือ

๑.เกศา ผม ที่เป็นเส้นงอกอยู่บนศีรษะ

๒.โลมา ขน เป็นเส้นงอกอยู่ทั่วกายเช่นขนคิ้ว หนวดเคราเป็นต้น และขนอ่อนตามตัว

๓.นขา เล็บ ที่งอกอยู่ตามปลายนิ้วมือ และปลายนิ้วเท้า

๔.ทันตา ฟัน ฟังอย่าง ๑ เขี้ยวอย่าง ๑ กรามอย่าง๑ รวมเรียกว่าฟัน เป็นฟันน้ำนม มี ๒๐ ซี่ เป็ฯฟันแก่มี ๓๒ ซี่

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น