วันอาทิตย์ที่ 15 สิงหาคม พ.ศ. 2553

โรคลม

ย่อจากพระคัมภีร์วดาร

          อาจารย์กล่าวไว้ว่า มนุษย์ทั้งหลายจะเกิดสรรพโรดต่างๆ ตั้งแต่คลอดจาดครรภ์มารดาตราบเท่าจนอายุขัย อาศัยหิตและลม ต่อไปนี้จักสำแดงซึ้งลมอันบัฃเกิดโทษให้ถึงพินาศอันตรายเป็นอันมาก คือ

ลมอันบังเกิดโทษให้ถึงพินาศอันตรายแนอันมาก ๒ ประการ

                             อุทธังคมาวาต พัดขึ้นเบื้องบน

                             อโธคมาวาต พัดลงไปจนปลายเท้าเป็นเบื้องต่ำ

          ถ้าลมทั้งสองระคนกันเข้าเมื่อใด จะทำโลหิตนั้นร้อนดั่งไฟ อันเกิดวันละ ๑๐๐ หน อาการทั้ฃ ๓๒ ก็พิกลจากภาคที่อยู่เตโชธาตุก็มิปกติ เหตุที่ทำให้ลมทั้งสองระคนกันได้ ให้โมษแก่มนุษย์ทั้งปวง เนื่องจาก ๑. บริโภคอาหารมิได้เสมอ และ ๒. ต้องร้อนและเย็นยิ่งนัก

สาเหตุที่ทำให้ลมทั้งสองระคนกัน

๑.อาหารให้โทษ ๘ ประการ

        ๑. กินมากกว่าอิ่ม

         ๒. อาหารดิบ

         ๓. อาหารเน่า

         ๔. อาหารบูด

         ๕. อาหารหยาบ

         ๖. กินน้อยยิ่งนัก
     
         ๗. กินล่วงผิดเวลา

         ๘. อยากเนื้อผู้อื่นยิ่งนัก

๒.ต้องร้อนและเย็นยิ่งนัก

            ดังนั้นลมอโธคมาวาต




ย่อจากพระคัมภีร์มัญชุสารวิเชียร


ลมเป็นก้อนเป็นดาน (ลมคุละมะ) ๑๐ ประการ

กล่าวถึงลม ๑๐ ประการ บังเกิดในลำดับโรคอื่นก็มี บังเกิดแต่ก่อนไข้ทั้งปวงก็มี ลม ๑๐ ประการซึ่งมีลักษณะเป็นก้อนเป็นดานนั้น คือ

๑. ลมทักษิณะคุละมะ เป็นก้อนดานตั้งอยู่เบื้องขวา มีนาภีเป็นที่สุด

๒. ลมวามะกะคุละมะ เป็นก้อนดานตั้งอยู่เบื้องซ้าย มีนาภีเป็นที่สุด

๓. ลมโลหะคุละมะ เป็นก้อนดานตั้งอยู่ในเบื้องต่ำแห่งนาภี

๔. ลมเสลศะมะกะคุละมะ เป็นก้อนดานตั้งอยู่เบื้องบนแห่งนาภี

๕. ลมกฤตคุละมะ เป็นก้อนดานตั้งอยู่ในอุระประเทศ

๖. ลมกฤตคุละมะ เป็นก้อนดานตั้งอยู่ในไส้มีนาภีเป็นเบื้องต่ำ มีเสมหะกระจายออกเป็นอัน

มาก

๗. ลมปิตะคุละมะ เป็นก้อนดานตั้งอยู่ในอุระมีดีซึมอยู่เป็นอันมาก

๘. ลมรัตตะคุละมะ เป็นก้อนดานตั้งอยู่หน้าขามีโลหิตแตกออกมา

๙. ลมทัษฐะคุละมะ เป็นก้อนดานตั้งแอบก้อนลมวามะกะคุละมะอยู่

๑๐. ลมประวาตะคุละมะ เป็นก้อนดานตั้งแอบก้อนบมทักษิณะคุละมะอยู่

อันว่าลมก้อน ดาน เถา อันใดอันตั้งอยู่ในอกและตั้งอยู่บนยอดไส้เกี่ยวผ่านลงไปอยู่ในนาภี นั้นตั้งอยู่ได้เดือน

หนึ่ง อย่าพึงรักษาเลย อันว่าลมก้อน ดาน เถา อันอื่นนอกกว่าลม ๑๐ ประการนี้แพทย์จะเอาเยียวยารักษาก็หาย

ลมปิตตะคุละมะ นั้นแพทย์มิพึงรักษา แต่ถ้าแพทย์จะรักษา ก็ให้เผาเหล็กให้แดงเอาทาบลงบนสรรพยา เพื่อจะให้ที่เผานั้นพองขึ้น ทำทั้งนี้เพื่อมิให้พยาธิจำเริญขึ้นมาได้

ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น